หลังจากกลายเป็นประเด็นดราม่าหนัก เมื่อเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว” ได้โพสต์เรื่องราวของอดีตสามีที่ออกมาแฉอดีตภรรยา ซึ่งเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดัง ว่านอกใจไปมีความสัมพันธ์กับนักร้องดัง จนทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องจบลงด้วยการหย่าร้าง โดยอดีตสามีเพิ่งทราบเรื่องทั้งหมดเมื่อเป็นข่าว
และยังอ้างว่า ถูกหลอกให้เซ็นใบหย่า ทั้งที่ยังคงคบหาและอาศัยอยู่ร่วมกัน พร้อมทั้งทรัพย์สินที่ทั้งคู่สร้างมาด้วยกันก็เป็นชื่อของอดีตภรรยา ซึ่งเขาอ้างว่าเธอนำไปประเคนให้นักร้องดัง และที่หนักที่สุดคือ เขาถูกห้ามไม่ให้เข้าไปในบ้านทั้งๆ ที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นของเขาเอง
ต่อมา เพจ “อีซ้อขยี้ข่าว” ได้อัปเดตข้อมูลจากฝั่งของ “จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” CEO สาวคนดัง ซึ่งโพสต์ว่า เธอได้เข้าแจ้งความกับอดีตสามี หลังจากที่เขาออกมาแฉความสัมพันธ์รักร้าว โดยเธอยืนยันว่า “ทำอะไรอย่าลืมคิดถึงลูก อย่าแค่สะใจ”
ล่าสุด “ตั้ม” ซึ่งเป็นอดีตสามีของ CEO สาวคนดัง ได้มานั่งพูดคุยในรายการ “โหนกระแส” พร้อมกับทนายชายพัฒน์และผู้ดำเนินรายการ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ซึ่งในรายการนี้ หนุ่ม กรรชัย ได้เฉลยแล้วว่า CEO สาวคนดังก็คือ “จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง” จริงๆ
การพูดคุยในรายการทำให้ หนุ่ม กรรชัย งงไปกับความสัมพันธ์ของ “ตั้ม” และ CEO สาวคนดังที่บอกว่าพวกเขาอยู่กินกันมา 15 ปี โดยที่รู้จักกันก่อนจดทะเบียนสมรสประมาณ 1-2 ปี จนกระทั่งปี 2566 ภรรยาได้ขอจดทะเบียนหย่า ซึ่งตั้มเข้าใจว่าเป็นปัญหาจากธุรกิจ จึงเซ็นใบหย่า แต่ยังคงใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
“ตั้ม” ยังเล่าต่อถึงที่มาของการสร้างธุรกิจร่วมกันว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างมานั้น เขาคือผู้ลงทุน ส่วนฝ่ายหญิงจะรับหน้าที่ทำคอนเทนต์และค้าขาย แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดที่สุดคือการที่ภรรยาโทรคุยกับนักร้องดังแทบทุกคืนเป็นเวลาหลายชั่วโมง แม้ว่าเขาจะหลับไปแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังคุยกันไม่หยุด จนสุดท้ายเขารู้สึกทนไม่ไหว
ตั้มยังกล่าวอีกว่า “ฝ่ายหญิงทำกับผมมามาก ถ้าหมดก็ต้องหมดด้วยกัน ถ้ามีก็ต้องมีด้วยกัน” พร้อมกับพูดถึงลูกว่า ลูกจะฟังแม่มากกว่า
ในรายการ หนุ่ม กรรชัย ได้ชี้แจงว่า การพูดในครั้งนี้เป็นการฟังจากฝั่งของ “ตั้ม” อดีตสามีเพียงฝ่ายเดียว หากต้องการความเป็นธรรมกับอีกฝ่าย ก็ต้องรอให้ฝ่ายหญิงออกมาชี้แจงด้วย ขณะเดียวกัน หนุ่ม กรรชัย ยังได้แสดงความคิดเห็นว่า อาจมีการสื่อสารที่ไม่ตรงกันระหว่าง “ตั้ม” และนักร้องชาย จนทำให้เรื่องราวทั้งหมดออกมาเป็นแบบนี้
