เปิดผลชันสูตรสาวขอนแก่น เสียชีวิตร่างเปลือยโดนพันด้วยผ่าหมกร่างคาห้องพัก ยิ่งกว่าหดหู่ โผล่ปมปริศนาเร่งคลี่คลาย
จากกรณีการเสียชีวิตของ นางสาว พราวพิลาศ พละดร อายุ 30 ปี หรือ มีน หญิงไทยที่เสียชีวิตในห้องพักหรูย่านสุขุมวิท หรือ สาวขอนแก่นถูกฆ่าหมกห้อง ซึ่งกำลังเป็นข่าวที่สังคมจับตามอง เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญและยังจับกุมตัวคนร้ายไม่ได้ ล่าสุด ผลชันสูตรร่างสาวขอนแก่นถูกหมกห้องพักหรูออกมาแล้ว
คืบหน้าล่าสุดผลชันสูตรสาวขอนแก่น ระบุ
“ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ตามร่างกายไม่มีบาดแผล แต่พบว่ามีแผลที่บริเวณปากและแขนที่เกิดจากรอยฟกช้ำ”
สาเหตุการเสียชีวิต แพทย์ระบุว่าเกิดจาก “ระบบหัวใจล้มเหลว” รอผลทางห้องปฏิบัติการ
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบสารพิษในร่างกาย และ DNA ในซอกเล็บ
ผู้ต้องสงสัยคือแฟนหนุ่มชาวสิงคโปร์ของผู้เสียชีวิต ชื่อว่า นายเดเนียล เบนจามีน โกเวีย เอน อายุ 32 ปี ซึ่งมีข่าวว่าล่าสุดได้หนีข้ามชายแดนออกไปแล้ว
ด้านเพื่อนและครอบครัวมั่นใจว่าผู้ก่อเหตุคือนายแดเนียลอย่างแน่อน เนื่องจากที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตมักจะเล่าให้แม่และเพื่อนสนิทฟังว่าแฟนหนุ่มชอบโมโหร้าย หึงหวงรุนแรง และลงมือทำร้ายร่างกายผู้เสียชีวิตอยู่บ่อยครั้ง ซ้ำในกล้อง cctv ยังพบว่าเป็นคนเดียวที่เข้าและออกมาจากห้องของผู้เสียชีวิต
โดยไทม์ไลน์เกิดเหตุ วันที่ 23 มีนาคม เป็นวันเกิดของผู้เสียชีวิต ก็ได้ไปเลี้ยงวันเกิดพร้อมกับแฟนหนุ่ม ซึ่งออกไปจากคอนโด ช่วง 18.43 น. และกลับเข้ามา ไปตอน 21.17 น. ของวันที่ 23 มี.ค. โดยแฟนของผู้เสียชีวิตเป็นชาวสิงคโปร์ มาส่งที่ห้องพักและตัวแฟนได้เดินออกไปจากคอนโดอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะไปเที่ยวต่อ จากนั้น ก็กลับมาในช่วงกลางคืนวันที่ 24 ช่วงเวลา 00.12 น. แล้วก็อยู่ในห้อง จากนั้นก็พบว่า 1.31 น. แฟนหนุ่มได้ลงมารับถุงจำนวน 2 ถุง จากนั้นก็กลับขึ้นไปที่คอนโดชั้น 22 อีกครั้ง
จนกระทั่งต่อมา 10.29 ของวันที่ 24 มีนาคม ได้มีโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิต โทรไปหาแม่ แต่แม่ไม่ได้รับสาย โดยแม่โทรกลับมาตอน 10.35 น. ปรากฏว่า ไม่มีคนรับเช่นเดียวกัน ซึ่งเมื่อเวลานั้นตัวแฟนหนุ่มยังคงอยู่ที่ห้อง
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจตั้งข้อสงสัยว่า ในช่วงเวลาที่โทรศัพท์ฝ่ายหญิงโทรไปหาแม่นั้น เป็นฝ่ายหญิงจริงหรือไม่ ขณะที่บาดแผลตามร่างกายของผู้เสียชีวิตพบว่ามีแผลที่บริเวณปากและแขนที่เกิดจากรอยฟกช้ำ จะต้องมีการรอผลชันสูตรจากนิติเวชอย่างแน่ชัดถึงสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้
สำหรับความสัมพันธ์ของผู้เสียชีวิตและแฟนหนุ่ม พบว่า ผู้เสียชีวิตทำงานที่สิงคโปร์ เมื่อ 3 ปีที่แล้วและได้รู้จักกับแฟนหนุ่ม จากนั้นก็เข้ามาที่เมืองไทย และพักที่คอนโดดังกล่าว เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ค่าเช่าเดือนละ 170,000 บาท ขณะที่ประวัติการเดินทางเข้าออกของชายสิงคโปร์ ได้เข้าเมืองไทยทั้งหมด 31 ครั้ง ก็จะมาพักที่เมืองไทยประมาณ 10-15 วั/นครั้ง ล่าสุดเข้ามาปี 2562 ซึ่งก็จะอยู่มา 1 ปีแล้ว นอกจากนี้ ยังพบว่าวีซ่าหมดอายุตั้งแต่ 28 พฤษภาคม 2567 แล้ว
และ จากการสืบสวน ก็พบว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กับของระหองระแหงกันมาตลอด โดยฝ่ายชายหึงหวงฝ่ายหญิงมาก ซึ่งจากคำให้การของเพื่อนผู้ตาย ทราบว่าฝ่ายหญิงเคยไปแจ้งความกับตำรวจเรื่องการทำร้ายร่างกายมาแล้ว และพบว่าแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต ป่วยเป็นไบโพลาร์ มีพฤติกรรมรุนแรง อารมณ์ร้อน