คดีการหายตัวไปอย่างปริศนาของ น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ยังคงเป็นที่จับตามองของสังคมไทย ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ภาค 4 แก้โทษจำคุก ลุงพล รวม 26 ปี ส่วน ป้าแต๋น ได้รับการยกฟ้อง
คดีนี้ไม่เพียงสร้างความสนใจในเชิงกฎหมาย
คดีการหายตัวไปอย่างปริศนาของ น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ยังคงเป็นที่จับตามองของสังคมไทย ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ภาค 4 แก้โทษจำคุก ลุงพล รวม 26 ปี ส่วน ป้าแต๋น ได้รับการยกฟ้อง
คดีนี้ไม่เพียงสร้างความสนใจในเชิงกฎหมาย
แต่ยังพลิกชีวิตลุงพลจากผู้ต้องสงสัยกลายเป็น เน็ตไอดอล ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก จนเกิดเป็นปรากฏการณ์สังคม ที่สื่อและประชาชนถกเถียงเรื่องเส้นแบ่งระหว่าง กระแสออนไลน์กับข้อเท็จจริงของคดี
เหตุการณ์เริ่มต้น “น้องชมพู่” หายตัว
11 พ.ค. 2563: “น้องชมพู่” วัย 3 ปี หายตัวจากบ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร14 พ.ค. 2563: พบศพน้องชมพู่บนบริเวณอุทยานแห่งชาติภูผายล ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร
สืบสวนพยานร่วม 300 ปาก และ หลักฐาน
– มีการสอบปากคำกว่า 384 ปาก ผู้เชี่ยวชาญถึง 13 คน รวบรวมวัตถุพยานกว่า 113 ชิ้น รวบรวมดีเอ็นเอ 154 ตัวอย่าง
– ผลสืบสวนชี้ว่า น้องชมพู่ไม่น่าจะขึ้นเขาด้วยตนเอง และอาจมีผู้นำตัวขึ้นไปก่อนจะพบว่าเสียชีวิต
กระแสสังคมและปรากฏการณ์ “ลุงพล”
– นายไชย์พล หรือ “ลุงพล” กลายเป็นบุคคลที่แจ้งเกิดในสื่อสังคมออนไลน์ มีทั้งกระแสเห็นใจและตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับบทบาทของเขา เขามีช่อง YouTube และกิจกรรมต่างๆ ที่สร้างรายได้จากกระแสสังคม กระทั่งถูกออกหมายจับในข้อกล่าวหา 3 ข้อหาศาลตัดสิน : จำคุก 20 ปี ยกฟ้องป้าแต๋น
– 20 ธ.ค. 2566: ศาลจังหวัดมุกดาหาร พิพากษาจำคุกลุงพล จำนวน 20 ปี (10 ปี ฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และอีก 10 ปี ฐานพรากเด็ก) พร้อมชดเชยค่าเสียหายแพ่ง แต่ยกฟ้อง นางสมพร (ป้าแต๋น)
– หลักฐานสำคัญ ได้แก่เส้นผมของน้องชมพู่ที่พบอยู่ในรถของจำเลย ซึ่งมีรอยตัดเดียวกันกับเส้นผมที่พบบริเวณร่างของผู้เสียชีวิต
– วันนี้ (13 ส.ค. 2568) ศาลจังหวัดมุกดาหารได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีนี้ซึ่งตัดสินให้ลุงพลติดคุกเพิ่มเป็น 26 ปี
อยู่ดีๆ ทำไมลุงพลกลายเป็นเน็ตไอดอล?
คดีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” ที่บ้านกกกอกเป็นเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจจากสังคมอย่างมาก เพราะเต็มไปด้วยปริศนาและความขัดแย้งในครอบครัว หนึ่งในบุคคลที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือ “ลุงพล” ซึ่งในช่วงแรกตกเป็นผู้ต้องสงสัย และ ถูกสื่อกระพือข่าวอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่ทำให้ลุงพลก้าวจากชาวบ้านธรรมดาไปสู่การเป็น “เน็ตไอดอล” ไม่ได้มาจากความตั้งใจแต่แรก แต่เกิดจากการรายงานข่าว 24 ชั่วโมงของสื่อกระแสหลัก และ สื่อออนไลน์ จนเขากลายเป็น “ตัวละครหลัก” ในโลกโซเชียล ขณะที่ผู้ติดตามก็อยากรู้ความเคลื่อนไหวของลุงพล ด้วยบุคลิกที่โผงผาง มั่นใจ กลับกลายเป็นการสร้างตัวตน จนทำให้เกิดแฟนคลับจำนวนมาก
เมื่อความสนใจเริ่มเปลี่ยนจากเรื่องคดีไปสู่ชีวิตประจำวัน โอกาสการสร้างรายได้ก็มาถึงจากการทำคอนเทนต์ผ่าน YouTube และ Facebook แปรเปลี่ยนไปเป็นงาน ทั้งจากการรับงานโชว์ตัว ถ่ายมิวสิกวิดีโอ ขายสินค้าในที่สุด
