ครอบครัวเผยคำพูดสุดท้าย หลังแพทย์หญิงอินเดียวัย 31 ปี เหยื่อข่มขืนแล้วฆ่าทิ้งในรพ. แค่อยากมีชีวิตที่ดี
จากกรณีสะเทือนขวัญจนเป็นข่าวใหญ่ระดับโลก ที่จุดชนวนความโกรธแค้นอย่างรุนแรงในประเทศอินเดีย เมื่อแพทย์หญิงฝึกหัดวัย 31 ปี ถูกข่มขืน ก่อนฆ่าทิ้งในโรงพยาบาลช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้แพทย์และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต่างๆ ในเมืองใหญ่หลายแห่งนับหมื่นคนรวมตัว หยุดงาน เพื่อประท้วงเรียกร้องหาความยุติธรรมจากทางการในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ส.ค.
ก่อนหน้านี้สื่ออินเดียรายงานว่า พบศพแพทย์หญิงวัย 31 ปี ในห้องสัมมนาของโรงพยาบาลในสภาพมีเสื้อผ้าบนร่างน้อยชิ้น ทางด้านตำรวจ เผยว่า ผู้ตายไปที่ห้องดังกล่าวเพื่อพักผ่อนในช่วงเข้าเวรหลังทำงานติดต่อกันกว่า 36 ชั่วโมง แต่กลับถูกล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนฆ่าทิ้ง ภายหลังเจ้าหน้าที่จับกุมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครชาย 1 รายในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมดังกล่าว
ล่าสุดทางสำนักข่าวต่างประเทศ บีบีซี รายงานว่า ได้พูดคุยกับพ่อแม่ของแพทย์หญิงที่ถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้ายว่า วันที่ 9 ส.ค. ก่อนเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมง พวกเขาเพิ่งจะโทรศัพท์คุยกับลูกสาว โดยเธอบอกกับแม่ว่า “อย่าลืมให้พ่อกินยาตรงเวลานะคะ แม่ไม่ต้องห่วงหนู”
นั่นคือครั้งสุดท้ายที่เธอและแม่ได้มีโอกาสพูดคุยกัน เช้าวันต่อมาแม่ก็ได้รับข่าวร้ายที่มีผู้แจ้งเข้ามาทางโทรศัพท์ไม่ขาดสาย
ขณะเดียวกัน ทางด้านพ่อของแพทย์หญิงรายนี้ พูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอว่า เขาเป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงซึ่งต้องกินยาควบคุมความดันเป็นประจำ และการกินยาให้ตรงเวลาถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ลูกสาวของเขาคอยเป็นห่วงเป็นใยเสมอ
“ลูกจะคอยถามย้ำตลอดว่า เขาไม่ได้ลืมกินยาใช่ไหม ครั้งหนึ่งตอนที่ยาหมด เขาคิดว่าค่อยรอไปซื้อเพิ่มในวันรุ่งขึ้น แต่เมื่อลูกรู้เข้าเธอรีบไปซื้อให้ทันที ไม่ว่าตอนนั้นจะดึกแค่ไหนก็ตาม ลูกเป็นคนแบบนั้น เธอไม่เคยทำให้ผมต้องกังวลกับเรื่องอะไรเลย ความฝันและชีวิตของพ่อได้พังทลายลงในวัย 62 ปี”
อย่างไรก็ตาม พ่อของผู้เสียชีวิต ได้กล่าวถึงโรงพยาบาลสถานที่ที่ลูกสาวทำงาน พวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องเลวร้ายแบบนี้จะเกิดขึ้นกับโรงพยาบาลซึ่งควรเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยแก่ลูกสาว หรือประชาชนทั่วไป หลังจากการจากไปของลูกสาวพวกเขายังไม่สามารถทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้เลย
ทั้งนี้ การเสียชีวิตของลูกสาวทำให้พวกเขาหวนนึกถึงเหตุการณ์ในปี 2012 ที่นักศึกษาฝึกงานกายภาพบำบัดวัย 22 ปีถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ข่มขืนบนรถบัสที่กำลังวิ่งในกรุงเดลี เมืองหลวงของประเทศ ส่งผลให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งนำไปสู่การประท้วงเรียกร้องจากทางการเกี่ยวกับให้เข้มงวดกฎหมายต่อต้านความรุนแรงทางเพศมากขึ้น