ธนาคารกรุงไทย ตอบแล้ว วิธีกดเงินสดจากบัตรคนจน ออกจากตู้ ATM

Author:

วันที่ 10 ก.ย.2567 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า จากที่มีผู้โพสต์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องวิธีกดเงินสดจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ออกจากตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับธนาคารกรุงไทย พบว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ

กรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลว่า วิธีกดเงินสดจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ออกจากตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย มี 5 ขั้นตอน คือ

1.สอดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เข้าไปในช่องตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย ต้องเปลี่ยนรหัสผ่านของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อน

2.ใส่รหัสบัตร 6 หลัก (รหัสดังกล่าวมาจากเลข 6 ตัวท้าย ของบัตรประชาชน)

3.หน้าจอตู้ ATM จะแสดงข้อความให้เปลี่ยนรหัสผ่าน

กดไปที่เมนู “ถอน/โอน/อื่น ๆ”

กดไปที่เมนู “บริการอื่น ๆ”

กดไปที่เมนู “บริการอื่น ๆ อีกครั้ง”

กด “เปลี่ยนรหัส”

ตู้ ATM จะขึ้นหน้าจอให้ใส่รหัสใหม่อีกครั้ง กรอกรหัสใหม่ 6 หลักที่จำได้ง่าย และต้องใช้รหัสนี้ทุกครั้งในการกดเงินสดออกจากตู้ ATM

จากนั้นหน้าจอจะขึ้นข้อความว่า “รหัสของท่านไปเปลี่ยนแปลงเรียบร้อยแล้ว”

4.จากนั้น หากต้องการกดเงินสดออกมาใช้ สอดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้าตู้ ATM

กดรหัสส่วนตัว 6 หลักใหม่ (ที่เคยเปลี่ยนไป)

กดไปที่เมนู “ถอน/โอน/อื่น ๆ”

กดไปที่เมนู “ถอนเงิน”

กดไปที่เมนู “กระแสรายวัน/บัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์”

ใส่จำนวนเงิน และกด “ถูกต้อง”

5.รอรับเงินจำนวน 500 บาท ช่อง ATM กรุงไทย

ทางธนาคารกรุงไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ข้อมูลที่มีการเผยแพร่ข้างต้นนั้นเป็นข่าวเก่า เนื่องจากได้มีการเปลี่ยนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปเป็นการใช้บัตรประชาชนแทน การกดถอนเงินสดจึงต้องใช้บัตร ATM ของธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนในการถอนเงิน

ดังนั้นขอเตือนให้ประชาชนควรระมัดระวังในการกรอกข้อมูลและไม่ควรกดลิงก์แปลก น่าสงสัยที่ส่งโดยไม่ทราบที่มาชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากธนาคารกรุงไทย

สามารถติดตามได้ที่ www.krungthai.com และหากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ Krungthai Contact Center 02-111-1111 หรือแจ้งผ่าน Facebook : Krungthai Care

บทสรุปของเรื่องนี้คือ เนื่องจากได้มีการเปลี่ยนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปเป็นการใช้บัตรประชาชนแทน การกดถอนเงินสดจึงต้องใช้บัตร ATM ของธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนในการถอนเงิน

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : ธนาคารกรุงไทย

เมื่อวันที่ 9 กันยายน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่ารัฐบาลยืนยันเดินหน้าแน่นอน โดยจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม.นัดแรกวันที่ 17 กันยายนนี้ โดยจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพื่อให้ทุกคนสบายใจ ซึ่งได้ปรับมาให้เงินสดทั้งหมด ให้กับคนที่ได้ลงทะเบียนแล้วกว่า 30 ล้านคน โดยรอบแรก แบ่งเป็น กลุ่มเปราะบาง ประมาณ 14 ล้านคนก่อน โดยแจกเป็นเงินสด 10,000 บาท ด้วยใช้งบประมาณปี 2567

โดยโอนเข้าบัญชีที่มีอยู่แล้ว และจะสามารถนำไปใช้ที่ไหนก็ได้ โดยไม่มีการจำกัดร้านค้า และชนิดสินค้า ตามเป้าหมายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อ ครม.อนุมัติแล้ว คาดสามารถแจกเงินได้ทันทีภายในเดือนกันยายนนี้ ไม่เกินตุลาคม ส่วนที่เหลือกลุ่มคนที่ลงทะเบียนในระบบไปแล้ว และไม่ใช่กลุ่มเปราะบาง รัฐบาลจะแจกเป็นล็อตที่ 2 โดยใช้งบประมาณปี 2568 จะแจกเป็น เงินสด 5,000 บาทก่อน ภายในปลายปี 2567 นี้ และส่วนที่เหลืออีก 5,000 บาท หากรัฐบาลวางระบบดิจิทัลได้ทันอาจจะแจกเป็นเงินดิจิทัลวอลเล็ต แต่หากไม่ทันอาจจะแจกเป็นเงินสดเช่นกัน คาดว่าจะดำเนินการส่วนที่เหลือได้ในปีหน้า 2568

นายภูมิธรรมกล่าวในด้านร้านค้า ได้ย้ำให้กรมการค้าภายในอย่าละเลยการรวบรวมร้านค้า มารองรับ เพราะเป้าหมายโครงการไม่ได้ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการเตรียมพร้อมประชาชน ได้เรียนรู้การเข้าสู่ระบบดิจิทัลด้วย ซึ่งสิ่งที่ทำแม้จะมีข้อโต้แย้ง แต่รัฐบาลอดทน เพราะมีเป้าหมายชัดเจน และทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด เป้าหมายโครงการในการกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบแรกคาดว่าจะกระตุ้นให้มีเงินสะพัดในระบบได้ประมาณ 140,000 ล้านบาท และเมื่อรวมกลุ่มที่ 2 คาดว่าจะมีเงินหมุนในระบบ สองรอบประมาณ 280,000-300,000 ล้านบาท “โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นโครงการสำคัญ เป็นเรือธงของรัฐบาล ขอยืนยันว่า รัฐบาลจะเดินหน้าแน่นอน แต่อาจจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพื่อให้ทุกคนสบายใจ

ซึ่งได้ปรับมาให้เงินสด 10,000 บาททั้งหมดแก่กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ซึ่งจะใช้ที่ไหนก็ได้ ซื้อสินค้าอะไรก็ได้ ไม่ต้องมีสินค้าต้องห้าม ตามเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่แม้จะเป็นเงินสดแต่ยังช่วยหมุนอยู่ในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิดก้อนแรก 140,000 กว่าล้านบาท ลงไปในตลาดก็จะเกิดกำลังซื้อประชาชนแล้ว และจะมีเงินก้อนสองลงต่อเนื่องไปอีกเป็น 1-2 แสนล้านบาท” นายภูมิธรรมกล่าว

โอนเงิน 3 กลุ่มเปราะบาง งวดเดือนกันยายน 2567 เงินเข้าบัญชีพร้อมกันทุกวันที่ 10 ของเดือน ซึ่งในงวดนี้จะได้รับตรงวันคือวันอังคารที่ 10 กันยายน 2567 ได้แก่ เงินอุดหนุนบุตร, เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเงินเบี้ยผู้พิการ โดยโอนช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ดังนี้

เงินอุดหนุนบุตร เดือนกันยายน 2567 เงินอุดหนุนบุตร เด็กแรกเกิด จนถึงอายุ 6 ขวบ รัฐบาลช่วยเหลือ ครอบครัวรายได้น้อย เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชี 600 บาท

โดยผู้ปกครองสามารถตรวจสอบสถานะสิทธิได้ตามขั้นตอนนี้

1. กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชนผู้ลงทะเบียน

2. กรอกเลขประจำตัวประชาชนเด็กแรกเกิด

3. ระบุรหัสยืนยันรูปภาพ

สำหรับผู้ที่ต้องการลงละเบียนเพื่อรับเงินจากโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด หรือเงินอุดหนุนบุตร หากผู้ปกครองเด็กมีความประสงค์รับสิทธิ ยังสามารถลงทะเบียนเพื่อลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนบุตรได้ตลอด

เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนกันยายน 2567 รัฐบาลช่วยเหลือผู้สูงอายุ จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ ดังนี้

อายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน

อายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน

อายุ 80-89 ปี ได้รับ 800 บาทต่อเดือน

อายุ 90 ปี ขึ้นไป ได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้หลังจากกระทรวงมหาดไทยมีการปรับเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 12 ส.ค.66 จากเดิมการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะไม่มีการปรับเบี้ยระหว่างปีงบประมาณ แต่ระเบียบใหม่ล่าสุด กำหนดให้ปรับอัตราจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แบบขั้นบันได ตามมติคณะรัฐมนตรี ณ เดือนที่ผู้สูงอายุมีอายุครบช่วงอายุในเดือนถัดไป

เช่น ในระหว่างปีงบประมาณ ผู้สูงอายุมีอายุครบ 70, 80 หรือ 90 ปี ในเดือนถัดไปก็จะได้รับการปรับค่าเบี้ยขึ้นทันทีตามขั้นบันได เช่น อายุครบ 70 ปี เดือน ต.ค.67 ในเดือน พ.ย.67 ก็จะได้ปรับเป็น 700 บาททันที ไม่ต้องรอปีงบประมาณใหม่ ส่วนผู้สูงอายุคนใดที่เกิดวันที่ 1 ในเดือนที่ครบอายุ ก็จะได้รับในเดือนนั้นทันที

เบี้ยผู้พิการ เดือนกันยายน 2567

เบี้ยผู้พิการได้รับคนละ 800-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ ดังนี้

ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน

ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบเงินอุดหนุนบุตร เบี้ยผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการ ได้ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เงินเด็ก’ หรือ แอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ หรือ ทางบัญชีที่ได้แจ้งไว้ และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินอุดหนุนบุตร ได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดกรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร 08 2091 7245, 08 2037 9767, 08 3431 3533, 06 5731 3199 และศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนผู้ที่ต้องการลงทะเบียนรับเบี้ยผู้พิการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เลขที่ 255 อาคาร 60 ปี กรมประชาสงเคราะห์ ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 ติดต่อ 1479 หรือ โทร. 0 2354 3388 ต่อ 311 หรือ 313

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *