สลด! พบศพหนุ่มพิการนอนจมน้ำ เสียชีวิตในบ้าน หลังน้ำท่วมบ้านนาน 3 วัน
เชียงใหม่: วันที่ 8 ต.ค.67 ตำรวจ สภ.สารภี พร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.สารภี เข้าตรวจสอบศพผู้เสียชีวิตจมน้ำ ภายในหลังหนึ่งใน ต.ไชยสถาน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพผู้เสียชีวิต นอนแช่น้ำอยู่ในบ้าน ซึ่งถูกน้ำท่วมขังมานาน 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2567
ที่เกิดเหตุพบร่างนายพิสุทธิ์ อายุ 47 ปี นอนคว่ำหน้า จมน้ำเสียชีวิตอยู่ภายในห้องโถงของตัวบ้าน ขณะที่ระดับน้ำเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง น้ำในบ้านลึกถึงระดับหัวเข่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยญาติ จึงได้ช่วยกันเคลื่อนย้ายร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากบ้านเพื่อชันสูตร
เบื้องต้น ผู้เสียชีวิต อยู่ในสภาพสวมเสื้อยืดสีส้มเพียงตัวเดียว ไม่สวมกางเกง ตรวจชันสูตรเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ซึ่งญาติให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนพิการด้านจิตใจ และมักจะชอบเดินไปเดินมาอยู่ตลอดเวลา โดยเช้านี้ผู้มาพบศพ คือ นายอุทัยวรรณ อายุ 57 เป็นน้าเขย
นายอุทัยวรรณ เล่าว่า เมื่อวานนี้ (7ต.ค.) ช่วงเย็นเอาข้าวมาส่งให้ผู้ตาย ยังเห็นว่ามีชีวิตอยู่ปกติ กระทั่งเช้านี้ เอาข้าวเช้ามาให้ เมื่อเรียกผู้ตายก็ไม่ตอบ จึงเดินเข้าไปหา พบว่าผู้ตายนอนคว่ำหน้าจมน้ำที่ท่วมบ้านเสียชีวิต ซึ่งจุดที่เสียชีวิตนั้นเป็นทางต่างระดับของพื้นบ้าน คาดว่าผู้ตายน่าจะลุกมาเข้าห้อง แล้วไม่ทันระวังจึงเสียหลักล้ม และบ้านที่น้ำท่วม มีการสับคัทเอาท์ไฟลง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟรั่ว ผู้ตายน่าจะมองไม่เห็น และตอนเกิดเหตุก็อาศัยอยู่เพียงลำพัง ซึ่งญาติก็ไม่ได้ติดใจในสาเหตุการตาย จึงขอนำร่างไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ ต.ไชยสถาน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เช้านี้น้ำได้ลดลงกว่า 30-40 เซนติเมตร ถนนหลายสายกลับมาสัญจรได้ตามปกติ แต่ตามซอกซอยต่างๆบางจุดที่เป็นพื้นที่ต่ำ น้ำยังสูงถึงระดับอก ชาวบ้านหลายคนยังกลับเข้าบ้านไม่ได้ ต้องกางเต็นท์นอนบนถนน
นางมลาวรรณ อายุ 51 ปี เผยว่า บ้านตนเองตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าไปในตัวบ้านได้ เนื่องจากน้ำมีระดับสูงถึงเอว ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านก็พังหมด ครั้งนี้โดนเป็นครั้งที่ 2 ในรอบห่างกันไม่กี่วัน และหนักที่สุดในรอบหลายสิบปี ตนเองมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2532 ก็ยังไม่เคยเจอหนักเท่าปีนี้ ในหมู่บ้านก็ได้รับผลกระทบกันแทบจะทุกหลังคาเรือน เพราะอยู๋ในพื้นที่ราบลุ่ม
ส่วนที่บ้านปากกอง หมู่ที่ 2 และ3 ตำบลสารภี อำเภอสารภีจังหวัดเชียงใหม่ จากการสอบถามป้าแมว ชาวบ้าน เผยว่าในพื้นที่นี้นั้นได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง หลายหมู่บ้าน อยากให้ทางราชการหาช่างที่ซ่อมรถจักรยานได้หรือรถยนต์ได้ เข้ามาช่วยเหลือตามหมู่บ้านต่างๆ เสียงสะท้อนชาวบ้านที่ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ ซึ่งสภาพแต่ละพื้นที่หลังจากน้ำลดระดับลง ทำให้เห็นถึงเศษซากความเสียหายจำนวนมหาศาล
เชียงใหม่: วันที่ 8 ต.ค.67 ตำรวจ สภ.สารภี พร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.สารภี เข้าตรวจสอบศพผู้เสียชีวิตจมน้ำ ภายในหลังหนึ่งใน ต.ไชยสถาน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพผู้เสียชีวิต นอนแช่น้ำอยู่ในบ้าน ซึ่งถูกน้ำท่วมขังมานาน 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2567
ที่เกิดเหตุพบร่างนายพิสุทธิ์ อายุ 47 ปี นอนคว่ำหน้า จมน้ำเสียชีวิตอยู่ภายในห้องโถงของตัวบ้าน ขณะที่ระดับน้ำเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง น้ำในบ้านลึกถึงระดับหัวเข่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยญาติ จึงได้ช่วยกันเคลื่อนย้ายร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากบ้านเพื่อชันสูตร
เบื้องต้น ผู้เสียชีวิต อยู่ในสภาพสวมเสื้อยืดสีส้มเพียงตัวเดียว ไม่สวมกางเกง ตรวจชันสูตรเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ซึ่งญาติให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนพิการด้านจิตใจ และมักจะชอบเดินไปเดินมาอยู่ตลอดเวลา โดยเช้านี้ผู้มาพบศพ คือ นายอุทัยวรรณ อายุ 57 เป็นน้าเขย
นายอุทัยวรรณ เล่าว่า เมื่อวานนี้ (7ต.ค.) ช่วงเย็นเอาข้าวมาส่งให้ผู้ตาย ยังเห็นว่ามีชีวิตอยู่ปกติ กระทั่งเช้านี้ เอาข้าวเช้ามาให้ เมื่อเรียกผู้ตายก็ไม่ตอบ จึงเดินเข้าไปหา พบว่าผู้ตายนอนคว่ำหน้าจมน้ำที่ท่วมบ้านเสียชีวิต ซึ่งจุดที่เสียชีวิตนั้นเป็นทางต่างระดับของพื้นบ้าน คาดว่าผู้ตายน่าจะลุกมาเข้าห้อง แล้วไม่ทันระวังจึงเสียหลักล้ม และบ้านที่น้ำท่วม มีการสับคัทเอาท์ไฟลง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟรั่ว ผู้ตายน่าจะมองไม่เห็น และตอนเกิดเหตุก็อาศัยอยู่เพียงลำพัง ซึ่งญาติก็ไม่ได้ติดใจในสาเหตุการตาย จึงขอนำร่างไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ ต.ไชยสถาน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เช้านี้น้ำได้ลดลงกว่า 30-40 เซนติเมตร ถนนหลายสายกลับมาสัญจรได้ตามปกติ แต่ตามซอกซอยต่างๆบางจุดที่เป็นพื้นที่ต่ำ น้ำยังสูงถึงระดับอก ชาวบ้านหลายคนยังกลับเข้าบ้านไม่ได้ ต้องกางเต็นท์นอนบนถนน
นางมลาวรรณ อายุ 51 ปี เผยว่า บ้านตนเองตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าไปในตัวบ้านได้ เนื่องจากน้ำมีระดับสูงถึงเอว ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านก็พังหมด ครั้งนี้โดนเป็นครั้งที่ 2 ในรอบห่างกันไม่กี่วัน และหนักที่สุดในรอบหลายสิบปี ตนเองมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2532 ก็ยังไม่เคยเจอหนักเท่าปีนี้ ในหมู่บ้านก็ได้รับผลกระทบกันแทบจะทุกหลังคาเรือน เพราะอยู๋ในพื้นที่ราบลุ่ม
ส่วนที่บ้านปากกอง หมู่ที่ 2 และ3 ตำบลสารภี อำเภอสารภีจังหวัดเชียงใหม่ จากการสอบถามป้าแมว ชาวบ้าน เผยว่าในพื้นที่นี้นั้นได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง หลายหมู่บ้าน อยากให้ทางราชการหาช่างที่ซ่อมรถจักรยานได้หรือรถยนต์ได้ เข้ามาช่วยเหลือตามหมู่บ้านต่างๆ เสียงสะท้อนชาวบ้านที่ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ ซึ่งสภาพแต่ละพื้นที่หลังจากน้ำลดระดับลง ทำให้เห็นถึงเศษซากความเสียหายจำนวนมหาศาล