รู้จัก เมธี อมรวุฒิกุล หรือ ณชิต อำนาจเดชานนท์ อดีตนักแสดงดัง หนึ่งในชื่อที่กำลังถูกค้นหาในขณะนี้หลัง 2 บอสดารา แห่งดิไอคอน ทั้ง บอสกันต์ หรือ กันต์ กันตถาวร และ บอสแซม หรือ แซม ยุรนันท์ ได้เข้าไปเจอในเรืองจำกลางพิเศษ รับหน้าที่ดูแลเป็นผู้ช่วยสายตรวจอยู่แดน2 แดนกักโรค ทำให้ต้องเจอกับผู้ต้องขังใหม่ทุกคน และคอยให้กำลังใจทั้ง บอสกันต์ และ บอสแซม อยู่ในขณะนี้ ซึ่งตัวเมธี เองเข้ามาด้วยคดีต่อสู้กับคนเสื้อแดงเมื่อปี53
สำหรับ เมธี อมรวุฒิกุล หรือในชื่อจริงว่า ณชิต อำนาจเดชานนท์ ชื่อเล่น เก่ง นักแสดงละครโทรทัศน์ชาวไทย เคยมีผลงานถ่ายภาพนู้ดอยู่ระยะหนึ่ง สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย และ อดีตสมาชิกแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน (นปช.) ซึ่งนายเมธี เคยถูกจับกุมจากการขึ้นเวที นปช. แล้วครั้งหนึ่ง เมธี อมรวุฒิกุล เคยเปลี่ยนชื่อเป็น ทัฬห์ อมรบุณยกร และ ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น ณชิต อำนาจเดชานนท์
เมธี อมรวุฒิกุล เป็นคนไทยเชื้อสายจีน บิดาชื่อ พิชัย และมารดาชื่อ นิรมล มีพี่ชายและน้องสาวอย่างละหนึ่งคน จบการศึกษาระดับมัธยมตอนปลายที่โรงเรียนเซนต์ดอมินิก ระดับปริญญาตรี สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ภายใต้หลักสูตรเต็ม 4 ปี แต่ใช้เวลาเรียนแค่ 3 ปีเท่านั้น จากนั้นได้ศึกษาต่อคอร์สบริหารธุรกิจ หลักสูตรอนุปริญญาโท ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
เริ่มทำงานเป็นนายแบบกับนิตยสารลลนา หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต จากนั้นจึงตามมาด้วยผลงานต่าง ๆ อีกมาก ทั้งโฆษณาทางโทรทัศน์ งานแสดง รวมถึงการถ่ายแบบนู้ดด้วยเปลี่ยนชื่อจริงและนามสกุลจริงเป็น “ทัฬห์ อมรบุณยกร” ในปี พ.ศ. 2550 โดยที่ชื่อมีความหมายว่า “ผู้มีความมั่นคง”
ในวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552 ได้สร้างความฮือฮา เมื่อเป็นฝ่ายไล่ชก นายอดิศราช ธรรมพิทักษ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง จังหวัดสุราษฎร์ธานีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นคนสูงอายุ ที่หน้าที่ทำการพรรค ขณะที่นายอดิศราชเดินทางมาเรียกร้องเงินค่าจ้างผลิตสื่อโฆษณาหาเสียงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่าง ต่อหน้าสื่อมวลชนจำนวนมาก โดยเจ้าตัวเข้าใจผิดว่านายอดิศราชเป็นพวกเดียวกับนายวรัญชัย โชคชนะ ซึ่งได้นำพานพุ่มหน้าที่ทำการพรรคไปมอบให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีเพื่อให้กำลังใจ
ในปี พ.ศ. 2564 ทัฬห์ ได้ปรากฏตัวอีกครั้งในที่ชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร จากนั้นจึงได้สมัครเป็นสมาชิก พรรคเศรษฐกิจไทย และได้รับการวางตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส. ประจำจังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นเขาได้ลาออกจากพรรคเศรษฐกิจไทย แล้วมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเสรีรวมไทย และลงเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 32 จากพรรคเสรีรวมไทย ในการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2566