วันนี้ (4 พ.ย. 2567) เวลา 16.30 น. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เผยถึงมติจากการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ที่ตกลงจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 18 รายและบริษัท The iCon ในข้อหาแชร์ลูกโซ่และฝ่าฝืน พ.ร.บ.ขายตรง โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ร่วม ซึ่งจะเริ่มดำเนินการแจ้งข้อหาภายในสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้า
พ.ต.ต.ยุทธนา อธิบายว่า การประชุมได้มติเอกฉันท์ให้แจ้งข้อหาตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ หรือกฎหมายแชร์ลูกโซ่ พร้อมทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรง โดยในกระบวนการทำงานนี้จะมีการตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อให้การดำเนินคดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจแต่งตั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นมาช่วยทำหน้าที่สอบปากคำ รวมถึงตั้งที่ปรึกษาคดีผู้เชี่ยวชาญด้านงบดุลและบัญชี พร้อมดึงอัยการเข้ามาเป็นที่ปรึกษา
นอกจากนี้ พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่าข้อหาฟอกเงินซึ่งกำลังอยู่ในกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์เส้นทางการเงินของผู้ต้องหาและบริษัท The iCon ว่ามีการโอนเงินไปที่ใดบ้าง ส่วนการแจ้งข้อหาฟอกเงินนั้นจะต้องพิจารณาเป็นรายกรณีและใช้เวลาเพิ่มเติม
ด้านการแจ้งข้อหานั้น ผู้ต้องหาทั้ง 18 รายยังมีสิทธิ์ตามกฎหมายในการแก้ต่างและให้ข้อมูลข้อเท็จจริงตามที่เห็นสมควร โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะส่งสำนวนให้อัยการทันตามระยะเวลาที่กำหนด
สำหรับการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมนั้น พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และต้องการทำคดีผู้ต้องหาชุดแรกให้สมบูรณ์ก่อน ส่วนการสอบพยานฝ่ายผู้ต้องหาซึ่งทนายบอสพอลอ้างว่ามีจำนวนมากถึงหลักหมื่นคน ทางดีเอสไอจะพิจารณาว่ามีความจำเป็นหรือไม่ในการสอบทั้งหมด เพื่อไม่ให้กระทบต่อความสมบูรณ์ของคดี
ท้ายสุด พ.ต.ต.ยุทธนา ยืนยันว่าไม่กังวลหากทนายบอสพอลจะยื่นแจ้งความตาม ม.157 กรณีที่ต้องมีการคัดเลือกพยานเข้าสอบปากคำ