จากกรณีเมื่อวานที่ผ่านมา (8 พ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ตํารวจกองบังคับการปราบปรามนําตัวทนายตั้มและภรรยามายื่นคําร้องขออํานาจศาลอาญาฝากขังเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยศาลอาญาพิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 คือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และผู้ต้องหา 2 คือ นางปทิตตา จึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหา 2 ได้ ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขัง ผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในวงเงิน 500,000 บาท และขอติดอุปกรณ์กำไล EM
ศาลอาญาพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีพนักงานสอบสวนคัดค้านเกรงจะหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และผู้เสียหายคัดค้านเกรงจะหลบหนีไม่ได้รับชดใช้ค่าเสียหายคืน ประกอบกับต้องทำการสอบสวนพยานอีก 10 ปาก กรณีอาจเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนได้ และเป็นกรณีที่มีความจำเป็นต้องปกป้องกระบวนการแสวงหาข้อเท็จจริงเข้าสู่สำนวนคดี ในชั้นสอบสวนนี้จึงมีเหตุอันสมควรที่จะรอฟังผลให้เสร็จสิ้นก่อน จึงให้ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว
โดยหลังจากนั้น “ทนายรณณรงค์” ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุผ่านเฟซบุ๊ก รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เผยว่า
กูช่วยมึงได้เท่านี้แหละตั้มที่เหลือแล้วแต่วาสนาให้พี่เดือนออกมาไวๆนะ
รอหลักฐานเด็ดไปประกันตัวใหม่ พิสูจน์ให้ได้ว่าไปถือศีล
ทั้งยังระบุต่อว่า
ผัวกับทนายก็ให้การไปคนละทาง
เมียก็บอกผัวให้อะไรมาก็รับไว้แล้ว ถ้าของที่ผัวเอามาให้เป็นของที่ได้มาจากการกระทำความผิด แล้วจะรอดกันยังไงวะเนี่ย เฮ้ยย