เรียกได้ว่า ทำเอาแฟนๆช็อคไปตามๆกัน เมื่อมีการรายงานว่า แซ็ค โดรัน นักกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน หรือ MMA (Mixed Martial Arts) ซ้อมอยู่ที่โรงยิมแถวบ้าน แต่หัวใจของเขาหยุดเต้นกะทันหัน และต้องอยู่ในอาการโคม่า 10 วัน ก่อนที่ เจสัน และ ทามิ พ่อ-แม่ของเขาจะตัดสินใจอย่างยากลำบาก ก่อนตัดสินใจปิดเครื่องช่วยชีวิตของลูกชาย

เจสัน กล่าว เขาต่อสู้จนตายจริงๆ เขากำลังฝึกซ้อม ระหว่างยกที่ 7 หรือ 8 เขาก็ล้มลง คนที่ไม่รู้อาจคิดว่าเขาโดนเตะที่หน้าอกหรือที่ศีรษะ แต่มีคนบันทึกการต่อสู้ของเขาไว้ และมันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เขาเหนื่อยและล้มลง

วัยรุ่นที่มีสุขภาพแข็งแรงดีรายนี้ เดินตามเส้นทางอาชีพ MMA มาเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง แถมยังเป็นกัปตันทีมอเมริกันฟุตบอลของโรงเรียนด้วย และไม่มีภาวะสุขภาพผิดปกติใดๆ แต่ ลิบบี กิลมอร์ แฟนสาวของเขาที่อายุ 18 ปีเช่นกัน เชื่อว่า “เครื่องดื่มชูกำลัง” (energy drinks) มีส่วนทำให้การจากไปของ แซ็ค

มีรายงานว่า แซ็ค ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังก่อนที่จะไปยิมหรือเข้าเซสชันซ้อม MMA เช่นเดียวกับทุกการก่อนออกกำลังกาย เพื่อหวังให้เป็นอาหารเสริมที่เพิ่มพลังงานด้วยคาเฟอีนในระดับสูง

เจสัน จากเมืองมัสแตง รัฐโอคลาโฮมา สหรัฐอเมริกา กล่าวว่าเครื่องดื่มเหล่านี้ ไม่ได้ช่วย ลูกชายของเขา แต่พวกเขายังคง “ไม่มีคำตอบที่แน่ชัด” ว่าเครื่องดื่มเหล่านี้ทำให้เขาเสียชีวิตหรือไม่?

เครื่องดื่มชูกำลังอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดปกติและเพิ่มขึ้น และแม้กระทั่งหัวใจวายหากบริโภคมากเกินไป ขีดจำกัดที่ปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่คือการบริโภคคาเฟอีนคือ 400 มก. ต่อวัน แต่เครื่องดื่มให้พลังงานบางชนิดมีปริมาณมากกว่า 500 มก.

แม้จะยังไม่รู้แน่ชัดว่าอะไรทำให้แฟนของเธอจากไป แต่ ลิบบี ต้องการให้คนอื่นตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

เล่าว่า เขาเป็นคนที่มีสุขภาพดีที่สุดที่ฉันรู้จักในชีวิต การจากไปและอาการหัวใจวายของเขาทำให้เราทุกคนตกใจมาก เขาเข้มงวดมากในการทำให้แน่ใจว่าเขาจะไปยิมทุกวันและกินอาหารที่ถูกต้องทั้งหมด เขาฟิตมาก แซ็ค มักจะดื่มเครื่องดื่มชูกำลังทุกครั้งที่ไปยิมหรือซ้อม MMA เพราะเขามีสุขภาพดีและแข็งแรงมาก ฉันจึงไม่เคยคิดเรื่องนี้มากนัก ฉันไม่รู้จนกระทั่งเขาเข้าโรงพยาบาลว่าก่อนจะซ้อม MMA แซ็ค จะออกกำลังกายก่อน ควบคู่กับเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งมันมีคาเฟอีนสูงมา

ฉันได้ค้นคว้ามามากมายเกี่ยวกับอันตรายของเครื่องดื่มชูกำลังและก่อนออกกำลังกาย โดยเฉพาะเครื่องดื่มชูกำลัง แม้แต่คนที่ฉันรู้จัก หนึ่งวันหลังจากที่ แซ็ค หัวใจวาย ก็มีอาการชักที่ยิม เนื่องจากก่อนออกกำลังกายและดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง นี่แสดงให้เห็นว่า การดื่มเครื่องดื่มชูกำลังก่อนออกกำลังกายกำลังฆ่าหรือทำลายร่างกายของคนหนุ่มสาวและมีสุขภาพดีมาก สิ่งที่ฉันต้องการทำคือ แสดงให้เห็นว่าเครื่องดื่มและส่วนผสมเหล่านี้เป็นอันตรายได้อย่างไร และไม่ควรมองข้าม

เจสัน บอกว่าเขาได้รับโทรศัพท์จากยิมของลูกชายเมื่อวันที่ 3 มีนาคม เพื่อแจ้งว่า แซ็ค เจ้าของส่วนสูง 185 ซม. และหนัก 85 กก. นั้นได้รับบาดเจ็บ

เมื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น ปลายสายก็บอกว่าพวกเขากำลังทำ CPR ช่วยชีวิต จากนั้นจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แซ็ค ตกอยู่ในอาการโคม่า ก่อนที่พ่อแม่ของเขาจะตัดสินใจว่ายุติการช่วยชีวิตใน 10 วันต่อมา

มันแย่มาก เรารู้ว่าถึงเวลาที่ต้องปล่อยเขาไป เรารู้สึกเหมือนว่าเขาต่อสู้เสร็จแล้ว เราสวดภาวนาเกี่ยวกับเรื่องนี้และตัดสินใจในครอบครัว เราบอกตัวเองเมื่อเรารู้สึกว่าเขาต่อสู้เสร็จแล้ว เราจะปล่อยให้เขาพักผ่อนมันยากจริงๆ เรารู้ดีว่าเรากำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อเราเห็นว่าเขาไม่ดีขึ้น เขาอาการแย่ลง มันเป็นเรื่องลำบากใจเพราะคุณรู้ดี นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะได้เห็นลูกชายของคุณ

คุณกำลังพยายามที่จะยึดติดกับทุกช่วงเวลาสุดท้าย แต่ใจของเรารู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เจสัน กล่าว

เมื่อพวกเขาถอดเครื่องช่วยหายใจออก แซ็ค ใช้เวลา 17 นาทีกว่าจะเสียชีวิต โดย เจสัน และ ทามิ จับมือลูกชายจนถึงวินาทีสุดท้าย

มันยากมากจริงๆ แต่เราต้องใช้เวลาช่วงเวลาสุดท้ายกับลูกของเรา มันค่อนข้างจะบ้าเพราะเขามีอาการหัวใจวาย แต่เขาสามารถบริจาคอวัยวะสำคัญได้ 7 อวัยวะ และหนึ่งในนั้นคือหัวใจของเขา อย่างไรก็ดี สาเหตุการจากไปของ แซ็ค ทางการแพทย์ยังไม่สามารถระบุได้ เรายังคงรอรายงานจากทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ เจสัน กล่าวเสริม เราไม่รู้ว่าเขาเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า? ถ้าเป็น เราก็ไม่ทราบมาก่อน เขามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงมาก รูปร่างสมส่วนมาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ทุกคนตกใจ

รัฐโอคลาโฮมาไม่ได้กำหนดให้โรงยิมส่วนตัวต้องมีเครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (AED) ตามกฎหมาย ซึ่งผู้ปกครองเชื่อว่าหากมีสิ่งนี้ อาจช่วยชีวิตลูกชายของเขาได้ ตอนนี้ เจสัน กำลังรณรงค์ให้ซื้อเครื่อง AED เพิ่ม เพื่อป้องกันใครก็ตามที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับลูกชายของเขา

ระหว่างทำ CPR จริงๆ แล้ว แซ็ค ตื่นขึ้นมาสองครั้ง นั่นคือช่วงเวลาที่ถ้ามีเครื่อง AED มันอาจช่วยเขาได้ ผมไม่โทษใคร ไม่มีใครผิด เรารับได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่แคมเปญของผมคือการช่วยจัดหาเครื่อง AED ให้กับโรงยิมส่วนตัวทั้งหมด เราได้ระดมทุนภายใต้ชื่อของ แซ็ค เราสามารถไปที่โรงยิมและสถานที่เล่นกีฬาที่แตกต่างกัน 15 แห่ง และบริจาคเครื่อง AED ให้พวกเขาและเล่าเรื่องราวของ แซ็ค

ตอนนี้เรากำลังอยู่ในกระบวนการพยายามที่จะออกกฎหมายในรัฐโอคลาโฮมาว่า โรงยิมส่วนตัวทุกแห่งจะต้องมีเครื่อง AED ในสถานที่ ซึ่งเรียกว่า -กฎของ แซ็ค- กฎหมายฉบับนี้มีไว้เพื่อคุ้มครองไม่เพียงแต่นักกีฬาแต่รวมถึงผู้ชมด้วย หากคุณสามารถช่วยชีวิตคนได้ ทำไมคุณถึงไม่อยากทำล่ะ? เราไม่ต้องการให้ใครรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เรารู้สึกระหว่าง 10 วันที่อยู่ในโรงพยาบาลและผลที่ตามมา ถ้ามันช่วยชีวิตใครได้สักหนึ่งชีวิต มันก็คุ้มค่าแล้ว เจสัน ทิ้งท้าย