“แม่ตั๊กขายทอง” กำลังเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ ซึ่งเกิดดราม่าซื้อทองออนไลน์ ที่เป็นประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์ขณะนี้ เนื่องจากมีผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์คลิปที่ตนนำ ดอกกุหลาบทองคำ และ จี้ไอ้ไข่ทองคำ ไปขายต่อที่ร้านทอง ซึ่งต้นคลิปกล่าวว่า ได้ซื้อทองดังกล่าวมาจากร้านขายทองออนไลน์ชื่อดังใน Tiktok และหวังว่าจะนำมาขายต่อ

แต่เมื่อไปถึงร้านทอง ปรากฏว่าทางร้านไม่รับซื้อ อีกทั้งเจ้าของร้านยังบอกอีกว่าที่ไม่ซื้อต่อเพราะทองไม่มียี่ห้อ ไม่ได้เปอร์เซ็นต์ และไม่มีใบรับรอง ซึ่งล่าสุดแม่ตั๊ก หรือ กรกนก สุวรรณบุตร และ ป๋าเบียร์ หรือ กานต์พล เรืองอร่าม ผู้เป็นสามี ได้ออกมาชี้แจง กับลูกค้าที่ซื้อทองจากทางร้าน เข้ามาพูดคุยถึงประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น โดยบางช่วงบางตอนนั้นเป็นการพูดถึงเรื่องน้ำหนักทอง

โดย ป๋าเบียร์ หรือ กานต์พล เรืองอร่าม อธิบายต่อว่า ที่มีการขายทองในราคานี้ ผมกล้าพูดว่ามีการแจ้งน้ำหนักและราคาทองแน่นอนทุกครั้งที่มีการขายผ่านไลฟ์สด ผมขายของด้วยความสุจริต ผมมาในฐานะพ่อของลูกไม่ใช่พ่อค้า ผมไม่มีเจตนาที่จะไม่พูดเกี่ยวกับข้อมูลสินค้า ผมไม่ได้เล่นขายของ ไม่ได้จะเปิดร้านทองแค่วันสองวัน

ด้าน หนุ่ม กรรชัย ผมไม่ได้มองว่าคุณขายทองปลอม แต่ผมจะพูดถึงเรื่องโฆษณาชวนเชื่อการที่ชาวบ้านเขามาซื้อ เขาไม่ได้มองหรอกว่าทองมันน้ำหนักเท่าไหร่ เค้าสนใจว่าซื้อร้านนี้ถูกกว่าเก็บไว้แล้วค่อเอาไปขาย…เรากำลังเล่นกับความรู้สึกของคน คนที่เค้ายากจน เค้าไม่รู้นิ ว่าอันนี้มันคือทอง 18K คุณอาจจะมบอกแต่เขาอาจจะไม่รู้ก็ได้

ทั้งนี้ หนุ่ม กรรชัย พูดต่อว่า นี่เป็นการ BAD PR ตอนนี้ไม่เกี่ยวกับการคืนทองแล้ว เพราะทางคุณตั๊กได้ผลประโยช์นจากตรงนี้ ผมมองว่าไม่แฟร์กับลูกค้าหรือผู้เสียหาย คุณอาจจะคิดว่าตอนนี้คุณเสียเปรียบที่ต้องรับทองกลับไป แต่พอเวลาผ่านไป ผู้คนก็จะลืมและแห่ไปซื้อทองที่ร้านคุณ

โดยลูกค้ารายแรกกล่าวว่า คือมันเสียความรู้สึก หนูชื่นชมและชื่นชอบพี่ เวลาเราเดือนร้อนต้องการใช้เงิน เราเอาไปขายต่อไม่ได้ ซื้อมา 33,332 บาท ไม่มีร้านรับซื้อเลยพี่ น้ำหนัก 6-7 กรัม แต่มันน่าขายไหมราคานี้ เราชื่นชอบซัพพอร์ต คุณตั๊กขายราคานี้ มันเกินไป อันนี้พูดจากใจเลย พี่ต้องซื้อสัตย์ต่อลูกค้านะ หนูพูดจากใจเลยว่ารับไม่ได้อย่างแรง

ขณะที่ คุณสตางค์ ลูกค้ารายที่สอง ผู้เป็นผู้เผยแพร่คลิปที่เป็นประเด็นดังกล่าว นั้นพูดว่า พี่รู้ไหมในแชทหนู มีคนข้อความมาเยอะมาก ลูกค้าพี่มีแต่คนรากหญ้า เขารักเขาชื่นชมพี่กันทั้งนั้น เห็นพี่ช่วยเหลือคนเขาก็อยากสนับสนุน บางคนไม่มีแม้แต่เงินกินข้าวหรือเอาเงินไปซื้อนมลูก เขาหวังจะเอาทองไปขายแลกเงิน แต่กลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย

ลูกค้ารายที่สาม เล่าว่า ตนหมดเงินไปกว่าแสนบาท โดยตนไว้ใจเพราะเห็นว่านำเงินได้ไปช่วยเหลือคนอื่นต่อ ยอดจริง 85,000 บาท เอาไปร้านจำนำได้มาเพียงแค่ 30,000 หมื่นกว่าบาท นอกจากนี้แม่ของตนได้มีการเอาทองที่ซื้อมาไปจำนำ แต่กลับมาแล้วเอาทองโยนใส่หน้า และกล่าวว่า ‘เอาทองมึงคืนไป ทองมึงมันของปลอม’ นอกจากนี้ยังมีตัวของแถมเป็นทอง 99.99% แต่กลับเป็นวัสดุทองเหลืองพ่นสีทอง

ทางด้านตัวแทนจาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. กล่าวว่า สิ่งนี้เรียกว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค เป็นการบิดเบือนความจริง

พร้อมกันนี้ ในรายการได้ทางผู้เชี่ยวชาญพร้อมเครื่องตรวจสอบทองคำมาในรายการ ซึ่งทองของลูกค้ารายหนึ่งมีผลตรวจออกมาว่า “ได้ทอง 99.16% หมายความว่าคือทอง 99 แท้ ซึ่งมีส่วนผสมของโพแทสเซียม และ ดีบุก ด้วยน้ำหนัก 6.15” ซึ่งลูกค้าซื้อมาในปี 2565 ในราคา 37,773 บาท (ตอนนั้นราคาทองอยู่ที่ประมาณ 29,000 บาท)

ขณะที่หนุ่ม กรรชัย ได้ระบุในช่วงตอนหนึ่งว่า ทองที่ลูกค้าได้คือไม่ใช่ทองปลอม แต่ทางด้านลูกค้าเขาไม่ได้สนใจว่า ทองมันจะ 99.99 % หรือ 69.99 % เพราะเขาเข้าใจกันว่า “ทองก็คือทอง” ซึ่งจริงๆ ทองมีหลากหลายเกรด หลากหลายเปอร์เซ็น ด้านนายสมบูรณ์ ภุชงโสภาพันธ์ กรรมการสมาคมค้าทองคำระบุว่า น้ำหนักทอง 1 บาทรับซื้อคืน 95 % ของมูลค่า แต่ต้องมีใบรับรอง – ประทับตรา แต่สินค้าประเภทนี้ไม่ได้อยู่กลุ่มนั้น