จากกรณีแม่ตั๊ก ป๋าเบียร์ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ล่าสุด ทนายเดชา เจ้าของเพจทนายคลายทุกข์ แถลงข่าวถึงการให้ทัศนะความเห็นทางกฎหมายคดีทองแม่ตั๊ก โดยมี ‘เคนโด้’ เจ้าของเพจเคนโด้ช่วยด้วย ในฐานะผู้รวบรวมผู้เสียหาย ร่วมรับฟังการแถลงข่าว ซึ่งหลังการแถลง มีรายงานว่า ‘แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์’ จ่อมอบตัวเร็วๆนี้ ซึ่งทางทนายเดชาเผยว่า

จากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า แม่ตั๊กและป๋าบียร์ เข้าข่ายกระทำความผิด 2 ข้อหา คือ ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ขณะนี้ตำรวจอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน คาดว่าภายใน 2-3 วัน พนักงานสอบสวนจะขออำนาจศาลออกหมายจับทั้งคู่ นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนทั้ง 2 หน่วยงานยังเตรียมดำเนินคดีกับกลุ่มดารา นักแสดงและ influencer ที่ร่วมไลฟ์สดขายทองหรือขายสินค้าในธุรกิจของแม่ตั๊กและพ่อเบียร์ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากการเข้าร่วมในไลฟ์สดดังกล่าวนั้น เป็นตัวสนับสนุนให้ประชาชนตัดสินใจซื้อสินค้า เพราะบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือสูง

ซึ่งทนายเดชามองว่า การที่อ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าสินค้าที่ขายเป็นสินค้าผิดกฎหมายหรือไม่นั้น เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นและเกรงว่าจะเป็นมาตรฐานที่ไม่ถูกต้อง นอกจาก 2 คดีที่อยู่ในมือตำรวจแล้ว ยังมีประเด็นเรื่องภาษีสรรพากร และความน่าสงสัยว่าจะเข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่

ซึ่งตอนนี้กรมสรรพากร และ ปปง. ได้ลงมาตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียดแล้ว ทนายเดชายังเปิดเผยอีกว่า คนสนิทของแม่ตั๊กได้ติดต่อเข้ามาหาตนว่า แม่ตั๊กและป๋าเบียร์ต้องการมอบตัวต่อสู้คดี โดยในบางประเด็นที่ทำผิดจริง ก็พร้อมยอมรับสารภาพและชดใช้ ขณะนี้ทั้งคู่ยังไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศตามที่มีกระแสข่าว ส่วนกรณีทรัพย์สินโดยเฉพาะรถหรูที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าหายไปจากบ้านนั้น ตนเชื่อว่า สาเหตุที่หายไป เนื่องจากบางคันเป็นรถไฟแนนซ์และอาจจะเป็นรถของคนอื่น

ส่วนกรณีที่ปรากฏภาพตำรวจร่วมรับประทานอาหารกับสองสามีภรรยาคู่นี้นั้น จากการตรวจสอบพบว่า คนหนึ่งเป็นรองผู้กำกับของ ปคบ. ส่วนอีกนายเป็นตำรวจ สอท. ซึ่งเป็นตำรวจในสังกัดของหน่วยงานที่รับผิดชอบคดีและทำให้ผู้เสียหายบางคนนั้นเกิดความไม่มั่นใจในเรื่องของคดี ดังนั้น จึงอยากฝากถึงพนักงานสอบสวนทั้ง 2 คดีว่า ขอให้พนักงานสอบสวนทำหน้าที่แทนประชาชน ด้วยความเป็นกลางไม่ใช่ทำหน้าที่ทนายให้กับผู้ต้องหา ด้านเคนโด้ระบุว่า จากการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลผู้เสียหายพบว่า

ขณะนี้มียอดผู้เสียหายสูงกว่า 300 ราย อีกทั้งยังพบว่ามีธุรกิจออมทอง ขายอาหารเสริม และการปล่อยสินเชื่อในลักษณะของการผ่อนสินค้าอีก ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะมีธุรกิจแบบนี้เกิดขึ้น เช่น ผ่อนค่าน้ำค่าไฟ และยิ่งไปกว่านั้นคือผ่อนทุเรียน ซึ่งลูกหนึ่งมีราคาเกือบ 5,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีผู้เสียหายได้ทุเรียนไปทาน อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการแถลงข่าวเสร็จสิ้น ก็มีรายงานว่า ทางแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ได้ประสานงานเตรียมที่จะเข้ามอบตัวแล้ว แต่ยังไม่มีรายละเอียดและกำหนดการที่แน่ชัด แต่คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้