“บ๊วย”รู้ซึ้งความตายใกล้ตัว ติดเชื้อในกระแสเลือดลงตับผ่าตัดด่วน อยู่รพ.นานที่สุดในชีวิต!!!

Author:

รู้ซึ้งความตายใกล้ตัว! นักแสดงพิธีกรหนุ่ม “บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ” เผยอาการ ติดเชื้อในกระแสเลือด เข้าผ่าตัดด่วน ซูบไร้เรี่ยวแรง มองบวกล้างสิ่งไม่ดีทิ้งสิ้นปี

หลังติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้นักแสดงพิธีกรหนุ่ม “บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ” เข้าแอดมิตผ่าตัดฝีในตับด่วน และพักรักษาอาการนานกว่าสัปดาห์

โดยเรื่องนี้ วันที่ 8 ธ.ค.2566 หนุ่มบ๊วย ก็ได้ถอดสายน้ำเกลือมาร่วมงาน พิธีบวงสรวง “ชูชัยบุรี ศรีศิวะ มหาเทพ อัญมณี” ณ ริมคลองน้ำตำนานอัมพวา อาณาจักรชูชัยบุรี จ.สมุทรสงคราม ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์อัพเดตอาการล่าสุดหลังติดเชื้อในกระแสเลือด แบบไม่มีสัญญาณเตือนมาก่อน และยังเป็นการนอนโรงพยาบาลนานที่สุดในชีวิต

บ๊วย เชษฐวุฒิ

โดย บ๊วย เผยว่า “ติดเชื้อในกระแสเลือดครับ ก็ไม่รู้ว่าติดเชื้อมาจากที่ไหนยังไง หมอก็ไม่ทราบสาเหตุ แล้วเผอิญว่าตามกระแสเลือดไปเรื่อยๆ แล้วก็ไปลงตับ เลยเป็นฝีที่ตับ ก็เลยต้องผ่าตัดเล็กเอาหนองออก แล้วก็ต้องให้ยาฆ่าเชื้อ ซึ่งยาฆ่าเชื้อก็ต้องรอดูว่ายาตัวนี้มันส่งผลต่อฝีไหม ถ้าส่งผลก็นอนโรงพยาบาลน้อยหน่อย

แต่เผอิญว่ามันส่งผลต่อฝี ก็นอนประมาณ 8-9 วันครับ อาการเริ่มต้นคือตอนเย็นหนาวๆ ร้อนๆ ตอนเช้าก็เหงื่อออก เป็นมาประมาณ 4-5 วัน คือไม่เจ็บคอ ไม่มีน้ำมูก ตรวจ ATK ก็ไม่ได้ 2 ขีด แต่พอไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาล ก็คือค่าเม็ดเลือดขาวสูง แสดงว่าร่างกายมันต่อสู้กับตัวเองอยู่ ก็โชคดีที่รู้ว่าเป็นที่ตับ ตอนนี้ก็ยังต้องให้ยาฆ่าเชื้ออยู่ครับ”

ก่อนหน้านี้สุขภาพเรา มันมีสัญญาณบ่งบอกไหม?
“ไม่มีสัญญาณอะไรเลย บางคนบอกว่าคนที่เป็นโรคติดเชื้อในกระแสเลือด บางทีก็มารู้ตอนตายไปแล้ว แต่เราเสียดในท้องเราเลยบอกได้ คุณหมอเลยให้ไปเอ็กซเรย์ คือมันเหมือนคนป่วย เป็น 40 องศา ก็หนาวๆ ร้อนๆ หายใจไม่สุด มันเสียดๆ ในท้อง”

ดารา บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ

หลังผ่าตัดเฝ้าระวังยังไงบ้าง?
“หลังผ่าตัดสภาพไม่ดีเลยครับ ก็คือว่าเจ็บเหมือนคนมาแทงตลอดเวลา ต้องขอมอร์ฟีน แต่ก็ดีขึ้นตามลำดับ ให้ยาฆ่าเชื้อตามกระแสเลือด ก็ต้องรอร่างกายรีคัฟเวอร์ตัวเอง ถามว่าคุณหมอห้ามอะไรไหม ไม่ได้ถามเลย แต่ก็ไม่ควรจะไปโลดโผน ออกกำลังกาย ตอนนี้ก็ยังไปโรงพยาบาลทุกวันครับ วันละ 1 ชั่วโมง ต้องไปถึงประมาณกลางเดือนนี้ ก็ภาวนาให้หายขาดครับ นี่ถือว่านอนโรงพยาบาลนานมากที่สุดในชีวิตเลย”

มันเป็นสัญญาณว่าเราทำงานหนักไปหรือเปล่า?
“ใช่ สงสัยอาจจะเครียดเยอะด้วยครับ ทำงานหนัก มีความเครียด ก็ว่ากันไป คือเราไม่รู้ว่าติดเชื้อในกระแสเลือดจากอะไร ซึ่งก็ไม่ได้กินของดิบ อาจจะเข้าทางผิวหนัง หรือไปเข้าห้องน้ำสาธารณะ อันนี้ไม่รู้เลย”

หวั่นไหมพอไม่รู้สาเหตุ?
“ไม่หวั่นครับ เราก็ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ถ้ามานั่งกลัวมันก็นอยด์เปล่าๆ แต่เราโชคดีที่เรารู้ว่าเราเสียดตรงท้อง เราเลยบอกหมอ อัลตราซาวด์แล้วก็เจอเลย พอ CT สแกนยิ่งใช่ใหญ่”

ฝีในตับมันอันตรายยังไงบ้าง?
“ก็อย่างที่บอกว่าติดเชื้อในกระแสเลือด เลือดก็วิ่งไปทุกที่ ของผมมันไปลงที่ตับ อาการแบบนี้หมอบอกว่าฝีมันเกิดสักประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็เพาะเชื้อได้ พอไปเจอที่ตับขนาด 5.7 เซ็นติเมตร ก็คือว่าใหญ่พอสมควร ตอนนี้น้ำหนักลดลงไปเท่าไหร่ไม่ทราบ แต่ว่าเสียงเรายังมีความเหมือนมอเตอร์ไซค์จะล้ม สิ่งที่ชัดที่สุดคือไม่มีแรงครับ มันไม่มีแรงเหมือนเดิม เราต้องเดินช้าๆ ทำอะไรช้าๆ ตั้งสติก่อน ก็ขัดใจแต่ต้องไปตามสังขาร ตอนนี้ก็ปรับการใช้ชีวิตคือนอนเร็วขึ้น วันนี้ก็ถอดเข็มมาเลย เพราะรับปากกับพี่ชูชัยไว้แล้ว”

สมาธิ

เรื่องงานจะเบาลงไหม?
“โห เราทำบริษัทด้วย แล้วเราก็คอยดูแลลูกน้อง คอยเป็นห่วงคนอื่น ทีนี้ก็ต้องคิดตลอดเวลา แต่เรานอนเร็วขึ้น คือช่วงเย็นจะไม่คุยเรื่องงานแล้ว จะนอนเลย ปิดสัญญาณโทรศัพท์ ปิดอินเตอร์เน็ต เพื่อที่จะไม่ให้อย่างอื่นรบกวนการนอน”

การป่วยครั้งนี้เราเรียนรู้อะไรบ้าง?
“เรียนรู้ว่าความตุยมันอยู่ใกล้ๆ เราเท่านั้นเอง เหมือนแข็งแรงแต่จริงๆ ก็ไม่ได้การันตีอะไรเลย”

เราเลยไปทางนั่งสมาธิเยอะขึ้นไหม?
“ช่วงนี้ตื่นเช้าทุกวันมา 4 เดือนแล้ว เพื่อเข้าคลาสของพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ตื่นตี 5 มานั่งสมาธิ ไหว้พระ สวดมนต์ พระอาจารย์ก็เทศน์ ซึ่งชีวิตก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว ได้เจอมหัศจรรย์ของชีวิตอยู่แล้ว แต่สำหรับตัวผมเอง การมาเป็นสิ้นปีนี้ เหมือนการล้างสิ่งไม่ดี ในปี 2566 แล้วก็เริ่มต้น 2567 แบบเต็มที่เลย”

พระอาจารย์หลายท่านไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล?
“ผมไม่ได้ตั้งใจโพสต์ เผอิญว่าผมจะไปงานลอยกระทง ที่มีจันทร์ซ้อนจันทร์ มีการอาบน้ำโบราณของพระสังฆราชที่วัดสุทัศน์ เราก็กะว่าจะพาเอฟซีเราไป ก็แจ้งชื่อเรียบร้อย ท่านก็ถามว่าจะไปกี่คน ก็บอกว่าผมไปไม่ได้แล้วครับ ผมอยู่โรงพยาบาล ท่านก็เลยให้พระเลขามาเยี่ยม เราก็รู้สึกว่าเป็นกรุณาของท่าน ก็เป็นการป่วยที่มีพระมาเยี่ยม เป็นเจ้าอาวาสถึงสองรูปด้วยกัน (หัวเราะ)”

พระอาจารย์

หลังจากนี้ต้องเช็กร่างกายแบบละเอียดเลยไหม?
“ก็รักษาร่างกายตัวเอง คอยดูแลตัวเองเรื่อยๆ เรื่องอาการป่วย คือทุกคนมีเชื้อโรคดีและไม่ดีอยู่แล้วในร่างกาย แต่เชื้อโรคไม่ดี จะส่งผลต่อเมื่อเราพักผ่อนน้อย เครียด เกิดภาวะแอนติบอดี้อ่อนแอ”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *